มารู้จัก BIM กันเถอะ
สวัสดีครับ วันนี้เป็นการเริ่มเขียน Blog เกี่ยวกับ BIM ครั้งแรก หลังจากได้ศึกษามาสักระยะ
หลายคนอาจสงสัยว่า BIM คืออะไร ?
หากใครเรียนวิศวะ หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า AutoCAD ซึ่งมันก็คือโปรแกรมประเภท CAD ประเภทนึง
แล้ว CAD คืออะไรล่ะ ?
CAD นั้น ย่อมาจาก Computer Aided Design ซึ่งแปลตามศัพท์ได้ว่า การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบไม่ว่าจะเป็นแบบเกี่ยวกับ อาคาร รวมไปถึงชิ้นส่วนทางวิศวกรรม โดย AutoCAD เป็นโปรแกรมซึ่งผลิตคิดค้นโดยบริษัท Autodesk นั่นเองครับ โดยโปรแกรมอื่นๆที่ลงท้ายด้วย CAD จะเป็นโปรแกรมประเภทนี้เกือบทั้งหมด เช่น
อันนี้เป็น AutoCAD
อันนี้เป็น CADsoft
วกกลับมา เรื่อง BIM ครับ มันย่อมาจาก Building Information Modeling แปลงตรงตัว การจำลองข้อมูลต่างๆของอาคารนั่นเอง ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากการออกแบบอาคารนั้นในช่วงที่ผ่านมาจะใช้คอมพิวเตอร์ ออกแบบจากโปรแกรมพวก CAD ซึ่งส่วนใหญ่เป็น 2 มิติ และแบบพวกนั้นไม่ได้มีการเชื่อมต่อกัน โดยที่เราจะดูข้อมูลอะไรสักอย่าง เราต้องเอาแบบหลายๆอย่างมากซ้อนๆกัน ซึ่งตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง อาจทำให้เกิดความสับสน แต่ BIM นั้นจะสร้างเป็น โมเดล 3 มิติขึ้นมา อีกทั้งยังสามารถ ระบุข้อมูลว่า ชิ้นส่วนนั้นสร้างขึ้นจากอะไร และยังสามารถรู้ปริกมาณทั้งหมด เช่น ปริมาณคอนกรีต ปริมาณเหล็กเสริม ทำให้เราได้เห็นภาพทั้งหมด โดยเราสามารถ ดึงออกมาเป็นแบบก่อสร้างได้อีกด้วย ลองไปดู คลิปแนะนำเกี่ยวกับ BIM กันนะครับ

วกกลับมา เรื่อง BIM ครับ มันย่อมาจาก Building Information Modeling แปลงตรงตัว การจำลองข้อมูลต่างๆของอาคารนั่นเอง ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากการออกแบบอาคารนั้นในช่วงที่ผ่านมาจะใช้คอมพิวเตอร์ ออกแบบจากโปรแกรมพวก CAD ซึ่งส่วนใหญ่เป็น 2 มิติ และแบบพวกนั้นไม่ได้มีการเชื่อมต่อกัน โดยที่เราจะดูข้อมูลอะไรสักอย่าง เราต้องเอาแบบหลายๆอย่างมากซ้อนๆกัน ซึ่งตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง อาจทำให้เกิดความสับสน แต่ BIM นั้นจะสร้างเป็น โมเดล 3 มิติขึ้นมา อีกทั้งยังสามารถ ระบุข้อมูลว่า ชิ้นส่วนนั้นสร้างขึ้นจากอะไร และยังสามารถรู้ปริกมาณทั้งหมด เช่น ปริมาณคอนกรีต ปริมาณเหล็กเสริม ทำให้เราได้เห็นภาพทั้งหมด โดยเราสามารถ ดึงออกมาเป็นแบบก่อสร้างได้อีกด้วย ลองไปดู คลิปแนะนำเกี่ยวกับ BIM กันนะครับ
สรุปคุณสมบัติทั่วไปของโปรแกรมออกแบบอาคารที่ใช้เทคโนโลยี BIM
- มีคำสั่ง สร้างโมเดล อาคาร เป็น สามมิติ เช่น ผนัง ประตู หน้าต่าง เสา คาร บันได หลัง และ ส่วนประกอบอื่น ๆ ของอาคาร
- สามารถสร้าง แบบ แปลน รูปด้าน รูปตัดได้ โดยอัตโนมัติ การปรับแก้ ไข ที่ใดที่หนึ่งใน สามมิติ จะมีผลต่อแบบ ทุกหน้าโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานไม่ต้องแก้ไขแบบทีละ แผ่น
- สร้างงาน นำเสนอแบบ ภาพเสมือนจริง หรือ ภาพยนต์ได้
- ทำการศึกษา ผลของแสงอาทิตย์ กระทำต่อตัวอาคารได้
- สรุปปริมาณ จำนวน และ พืนที่ ต่าง ๆ ของตัวอาคารได้ เช่น พื้นที่ใช้สอย พื้นที่ผนัง จำนวน ประตู หน้าต่าง ปริมาตรคาน ฯลฯ ได้
โปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับประเภท BIM นั้น ก็มีประมาณนี้ครับ
- Autodesk Revit ก็เป็นของเครือเดียวกับ Autocad ครับ
- Allplan ตัวนี้เป็นของบริษัท NEMETSCHEK จากประเทศเยอรมันครับ มีผู้ใช้งานเยอะเหมือนกัน แต่เมืองไทยมีบ้าง
- ArchiCAD ก็ฮิตในหมู่สถาปนิกเมืองไทยครับ แต่จะไม่ค่อยเน้นไปทางด้านเสริมเหล็กโครงสร้าง ไม่เหมือนสองตัวด้านบน ที่มีครบวงจรครับ
- Tekla อันนี้ก็เน้นไปทางโครงสร้างครับ
- ...... จริงๆมีอีกเยอะมากครับ
เห็นมั๊ยครับ แค่นี้ก็จะทำให้แบบก่อสร้างนั้น สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งให้งานออกมานั้นมีคุณภาพแถมยังไม่ต้องปวดหัวกับแบบอีกต่อไปแล้วครับ
อัพเดตครั้งต่อไปผมจะพูดถึงเกี่ยวกับโปรแกรม ALLPLAN นะครับ ซึ่งขอแหวกแนวจาก Revit ซะหน่อย แล้วเจอกันครับ
Post a Comment